12สารสกัด ลดน้ำหนัก ดีท็อกซ์

Last updated: 25 ก.ค. 2566  |  1102 จำนวนผู้เข้าชม  | 

12สารสกัด  ลดน้ำหนัก ดีท็อกซ์

 

สารสกัดจากพริก  (Capsicum Extract)

มีสารสำคัญที่เรียกว่า แคปไซซิน (Capsaisin) ช่วยลดการสะสมไขมัน เพิ่มการเผาผลาญ และเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่มีอยู่เดิม จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดการสร้าง LDL (ไขมันเลว) และช่วยเพิ่มการสร้าง HDL (ไขมันดี)ให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินพร้อมแร่ธาตุ อย่างวิตามิน A B6 C ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก ใยอาหารอีกทั้งยังเพิ่มการหมุนเวียนเลือดได้เป็นอย่างดี 

 

 

สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว (Green Coffee Bean Extract)

อุดมไปด้วยด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระเพราะในเมล็ดกาแฟมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คลอโรเจนิค แอซิด (Chlorogenic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย มีผลช่วยลดระดับมวลไขมันในร่างกาย ลดระดับค่าดัชนีมวลกาย รวมถึงยับยั้งการดูดซึมของไขมัน และการทำงานของเอ็นไซม์ที่ย่อยไขมัน (Pancreatic Lipase) ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด สามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังรักษาผิวพรรณและ ชะลอความชราได้อีกด้วย

 

 

สารสกัดจากกระบองเพชร (Cactus Extract)

เป็นพืชที่ให้ไฟเบอร์สูงมาก จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยควบคุมความอยากอาหาร และมีคุณสมบัติพิเศษที่จะเข้าไปจับโมเลกุลไขมันตั้งแต่ส่วนบนของกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเข้าไปทางผนังสำไส้เล็กได้ และถูกกำจัดออกจากร่างกาย โดยการขับถ่าย นอกจากนี้ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ โดยมีกลไกที่ทำให้อาหารดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลง จึงช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอล ลดระดับน้ำตาล นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน A และวิตามิน C อีกด้วย

 


สารสกัดจากพริกไทยดำ (Black Pepper Extract)

มีส่วนประกอบของสารไพเพอรีน (piperine) ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องของ ความฉุน และรสชาติที่เผ็ดร้อนที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และกระตุ้นกระเพาะอาหารซึ่งจะหลั่งกรดไฮโดคลอริกขึ้นมา ช่วยย่อยโปรตีนในอาหาร ทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารเพิ่มขึ้น จึงช่วยส่งเสริมให้กระบวนการเผาผลาญดีขึ้น ช่วยในการควบคุมยีนส์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการก่อตัวของเซลล์ไขมันใหม่ให้ลดลง พร้อมกับทำลายเซลล์ไขมันเก่าที่สะสมอยู่ภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียช่วยลดความเสื่อมและการถูกทำลายของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย

 

 

สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract)

ถือเป็นพืชในตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากชนิด เช่น โปรตีน ไฟเบอร์รวมถึงวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ  มีส่วนช่วยในการยับยั้งการย่อยของคาร์โบไฮเดรต คุมความอยากอาหาร ดังนั้นจึงลดการเปลี่ยนของแป้งไปเป็นน้ำตาลได้ถึง 60% เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลลดลง นอกจากที่ร่างกายจะไม่มีน้ำตาลใหม่มาเก็บสะสมในรูปไขมันแล้ว หากร่างกายขาดน้ำตาล ร่างกายจะดึงเอาไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้ จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

 

 

สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)

มีสารสำคัญที่ทำให้เกิดประโยชน์ คือ “คาเทชิน”  (Catechins) ด้วยกลไกของการกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน โดยการยับยั้งเอนไซม์ไลเปสและลดกระบวนการแตกตัวของไขมัน จึงมีประสิทธิภาพการเผาผลาญทำให้ร่างกายปรับตัวให้เผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น มีส่วนช่วยให้น้ำหนัก รอบเอวและมวลไขมันลดลง ช่วยให้ผ่อนคลาย และลดความเครียดจากคุณสมบัติของสาร ทีอะนิน (Theanine) ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ลดคอเลสเตอรอล และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพสูงในการป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูสดใส อ่อนเยาว์ ชะลอวัย

 

 

สารสกัดจากส้ม (Citrus Aurantium Extract)

เป็นสารที่ได้มาจากผลดิบของพืชตระกูลส้มซ่า (Bitter Orange) มีสารสำคัญ คือ Synephrine มีคุณสมบัติ คือ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานของร่างกายและสลายไขมัน สามารถเพิ่มพลังงานและอัตราการเผาผลาญโดยไม่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจหรือความดันโลหิต สามารถควบคุมและช่วยลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด

 

อินูลิน (Inulin)

เป็นสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตประเภทโพลีแซคคาไรด์ (polysaccharide)  ที่ละลายน้ำได้ ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นเส้นใย (dietary fiber) พบในหัวหรือรากพืชบางชนิดส่วนมากพบในส่วนของหัวหรือรากสะสมอาหาร เช่น กระเทียมต้น หอม กะหล่ำปลี ทิวลิป หน่อไม้ฝรั่งและชิโครี โดยจะพบมากในหัวแก่นตะวัน และชิโครี อินูลินจัดเป็นเส้นใยอาหาร (dietary fiber) ที่ไม่ให้แคลอรี มีผลช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ในเลือดและลดระดับคอเรสเตอรอล(cholesterol) เพิ่มปริมาณ HDLและลดระดับปริมาณ LDLจึงมีการนำมาใช้กับอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและเป็นอาหารลดความอ้วนได้  

 

 

บุก (Konjac)

เป็นพืชหัวล้มลุก พบได้ในป่าลึก โดยมีสารกลูโคแมนแนน (Glucomannan) อยู่ภายในเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีน้ำหนักมวลโมเลกุลสูงมาก ซึ่งโมเลกุลของกลูโตแมนแนน ประกอบด้วยน้ำตาลสองชนิด คือ กลูโคส และแมนโนส มีฤทธิ์ช่วยดูดชึมน้ำในกระเพาะอาหาร ช่วยให้อิ่มเร็ว ให้พลังงานต่ำ ช่วยยับยั้งการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคลสจากทางเดินอาหาร สามารถดูดซับไขมันและกรดน้ำดี แล้วขับถ่ายออกนอกร่างกาย จึงช่วยลดระดับ cholesterol และ triglyceride ในหลอดเลือดได้ โดยสารกลูโคแมนแนน (Glucomannan) มีประมาณ 90% 

 

 

ไคโตซาน (Chitosan) 

คือ สารธรรมชาติที่มีในสัตว์กระดองแข็งและขาเป็นปล้อง เช่น เปลือกกุ้ง กั้ง และกระดองปู ซึ่งเมื่อนำมาสกัดแยกเอาแคลเซียม โปรตีน และแร่ธาตุที่ไม่ต้องการออกไป ก็จะได้สารสำคัญ ที่เรียกว่า "ไคโตซาน" ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการดักจับไขมัน ด้วยการจับตัวกับกลุ่มไขมันทำให้ลดการดูดซึมบริเวณลำไส้ ความสามารถในการดูดน้ำได้ดีทำให้รู้สึกอิ่ม และเกาะกับน้ำดีซึ่งถือเป็นตัวขนย้ายไขมันตัวหนึ่งทำให้ง่ายต่อการขับไขมันออกจากร่างกาย และยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิด LDL รวมถึงไขมันจำพวกไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ดี และลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย

 


ไซโลโอลิโกแซ็กคาไรด์  (Xylo-oligosaccharides)

เป็น คาร์โบไฮเดรต ประเภท oligosaccharide ประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) คือน้ำตาลไซโลส (xylose ) ประเภทเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) ที่มีคาร์บอนในโมเลกุล 5 อะตอม มาต่อกันด้วยพันธะไกลโคไซด์ (glycoside linkage) การผลิต Xylo-oligosaccharides สกัดออกมาจากพืช เช่น ผลไม้ เปลือกข้าวและธัญพืช ไผ่ ข้าวโพด  โดย XOSจัดเป็นสาร prebiotic ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โปรไบโอติก(probiotic) ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ ช่วยดูดซับสารพิษในทางเดินอาหารไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำให้อุจจาระมีกากใย ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อ

โรคอื่นๆ

 

 

ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ( Fructo Oligosaccharide ) 

จัดเป็นพรีไบโอติก (prebiotic) ชนิดหนึ่ง เนื่องจากไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ ที่มีประโยชน์ ทำให้เกิดการผลิตกรดแลคติก ซึ่งทำให้ลำไส้ใหญ่มีความเป็นกรดมากขึ้น จึงช่วยลดจุลินทรีย์ที่ก่อโรค ซึ่งได้แก่ Clostridium (เช่น C. perfringens, C. difficile), Bacteroides, Coliforms (เช่น E. coli) และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื้อบุลําไส้ อีกทั้ง FOS มีคุณสมบัติ เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยย่อย ช่วยปรับการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลําไส้ ช่วยกำจัดของเสียและสารพิษในร่างกายจึงทำให้การดูดซึมของลำไส้นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายได้อีกด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้